1. ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับวัดโวม ทัญฮวา
1.1. ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์และประวัติความเป็นมาของวัดโวม
วัดโวม ตั้งอยู่เชิงเขา บาน อา (Ban A) ในเขต ดงเตียน (Dong Tien) จังหวัด ทัญฮวา (Thanh Hoa) บริเวณนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของเมือง ตือ โฟ (Tu Pho) ในช่วงการปกครองของจีน และยังเป็นที่ตั้งของเมือง เดือง ซา (Duong Xa) ในดินแดน อ้าย เจิว (Ai Chau) และ ทัญฮวา (Thanh Hoa) ในหลายราชวงศ์ ปัจจัยเหล่านี้ได้สร้างประวัติศาสตร์อันยาวนาน รวมถึงภูมิทัศน์และภูมิประเทศที่ยิ่งใหญ่และสวยงามอย่างยิ่ง
Chùa Vồm ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา Ban A จังหวัด Thanh Hoa (ที่มา: UBND Phường Đông Tiến)
Chùa Vồm หรือที่รู้จักกันในชื่อภาษาจีนว่า Dai Khanh Tu และ Dai Hung Tu ซึ่งเป็นชื่อที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งพุทธศาสนาและความสามัคคีระหว่างปัญญาและความเมตตา ตามเอกสารโบราณ เช่น Dai Nam Nhat Thong Chi และ Hoang Viet Nhat Thong Du Dia Chi วัดแห่งนี้มีอายุย้อนกลับไปถึงสมัยราชวงศ์ Trần และถือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางพุทธศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาค Thanh Hoa ซึ่งเคยเป็นสักขีพยานของการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์มากมายและความเจริญรุ่งเรืองของนิกายลามเต๊ (Lam Te)
1.2. เหตุผลที่ Chùa Vồm เป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว
ด้วยภูมิประเทศที่หาได้ยาก "หันหน้าเข้าหาภูเขา หันหลังให้แม่น้ำ" Chùa Vồm ตั้งตระหง่านอยู่บนเทือกเขา Ban A อันยิ่งใหญ่ และหันหน้าออกสู่แม่น้ำ Ma อันสงบเงียบ สร้างภาพทิวทัศน์อันกลมกลืนระหว่างท้องฟ้า ดิน และมนุษย์ เมื่อมองจากระยะไกล วัดดูเหมือนจะซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางป่าไม้อันเขียวขจี หลังคากระเบื้องที่ปกคลุมด้วยมอสส์ส่องประกายในหมอกยามเช้า สร้างความรู้สึกสงบและเงียบสงัด พื้นที่แห่งนี้เป็นการผสมผสานระหว่างธรรมชาติและจิตวิญญาณ ทำให้ทุกย่างก้าวของการแสวงบุญเบาและสงบสุข
สถาปัตยกรรมของ Chùa Vồm สะท้อนถึงมรดกเวียดนามแบบดั้งเดิม เป็นการผสมผสานที่ประณีตระหว่างหิน ไม้ และกระเบื้อง ซึ่งเห็นได้จากรายละเอียดการแกะสลักที่ประณีต ลวดลายที่อ่อนช้อย และพระพุทธรูปโบราณที่มีคุณค่าทางศิลปะอย่างลึกซึ้ง พระพุทธรูปทุกองค์ในวัดได้รับการสร้างสรรค์อย่างพิถีพิถัน แสดงถึงรูปแบบการแกะสลักของสมัยราชวงศ์ Trần และ Lê Trung Hung ทุกห้องโถง หลังคาโค้ง เสา และคาน ล้วนเปล่งประกายความสง่างามแต่ก็ใกล้ชิด ราวกับกลมกลืนกับธรรมชาติโดยรอบ
นอกจากคุณค่าทางศิลปะและประวัติศาสตร์แล้ว Chùa Vồm ยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันเงียบสงบ ที่นักท่องเที่ยวสามารถมาสักการะ ขอพร ขอความสงบสุข และสงบจิตใจท่ามกลางบรรยากาศแห่งการทำสมาธิ เสียงระฆังวัดดังก้องผสมผสานกับเสียงลมและเสียงนกร้องในป่า สร้างเสียงที่ใสบริสุทธิ์ที่ทำให้จิตใจสงบขึ้น ไม่ว่าจะมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิอันสดใส หรือวันฤดูใบไม้ร่วงอันเงียบสงบ Chùa Vồm ก็ยังคงความเรียบง่ายและศักดิ์สิทธิ์ไว้
1.3. สัมผัสคุณค่าทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และจิตวิญญาณของ Chùa Vồm
ตลอดหลายศตวรรษ Chùa Vồm ยังคงเป็นศูนย์กลางของการสืบทอดนิกายลามเต๊ (Lam Te) ซึ่งเชื่อมโยงกับยุค Lê Trung Hung ซึ่งเป็นช่วงที่พุทธศาสนามีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในดินแดน Thanh มีพระภิกษุสงฆ์ผู้มีชื่อเสียงหลายรูปเคยปฏิบัติธรรมที่นี่ ทิ้งร่องรอยอันลึกซึ้งไว้ในประวัติศาสตร์พุทธศาสนาเวียดนาม
นอกเหนือจากคุณค่าทางศาสนาแล้ว วัดยังเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมและศิลปะที่โดดเด่นของภูมิภาค ผสมผสานระหว่างธรรมชาติ สถาปัตยกรรม และภูมิทัศน์ ด้วยความงามของทิวทัศน์ภูเขาและแม่น้ำ บรรยากาศที่เงียบสงบ และอากาศที่บริสุทธิ์ Chùa Vồm จึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางในอุดมคติสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการผสมผสานการสักการะ การทำสมาธิ และการพักผ่อนหย่อนใจในการเดินทางสำรวจดินแดน Thanh
2. ชื่นชมความงามของสถาปัตยกรรมและศิลปะโบราณที่ Chùa Vồm
แม้จะผ่านกาลเวลา การเปลี่ยนแปลงของประวัติศาสตร์ สงคราม และสภาพอากาศที่รุนแรง Chùa Vồm อาจไม่สมบูรณ์เหมือนเดิม แต่ร่องรอยสถาปัตยกรรมจากสมัยราชวงศ์ Trần, Lê Sơ, Nguyễn และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสถูปเจดีย์ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ตั้งแต่สมัย Lê Trung Hung ช่วยให้เราทราบถึงขนาดของสถาปัตยกรรม ศิลปะสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ และคุณค่าที่ซ่อนอยู่หลากหลายมิติของวัดแห่งนี้
2.1. สำรวจโครงสร้างอันเป็นเอกลักษณ์ที่ทำจากไม้และหินในพื้นที่ Chùa Vồm
เมื่อเดินผ่านประตู Tam Quan อันเก่าแก่ นักท่องเที่ยวจะได้ข้ามสะพานโค้งที่ทอดข้ามทะเลสาบรูปพระจันทร์เสี้ยวอันงดงาม จากนั้นจึงเข้าสู่ลานกว้างที่โปร่งโล่งซึ่งนำไปสู่ห้องโถงหลักของ Chùa Vồm วัดทั้งหลังสร้างขึ้นด้วยเสาไม้ขนาดใหญ่ที่แข็งแรง 40 ต้น บนเสายังคงมีจารึกอักษรจีนสลักลึกอยู่ ตามการสำรวจ จารึกเหล่านี้คือ "แผ่นศิลาจารึก" ที่บันทึกถึงการบริจาคของผู้คนที่มีส่วนร่วมในการบูรณะวัดครั้งใหญ่ในปี Đồng Khánh ที่ 3 (ค.ศ. 1887)
วัดสร้างโดยพิงภูเขา โดยใช้หน้าผาหินเป็นผนัง สร้างความรู้สึกกลมกลืนระหว่างสิ่งก่อสร้างของมนุษย์และธรรมชาติ หลังคาวัดโค้งอย่างนุ่มนวลตามรูปทรงหัวเรือแบบดั้งเดิม มองจากระยะไกลคล้ายเรือที่กำลังแล่นฝ่าคลื่นในทะเล สร้างความรู้สึกสง่างามและล่องลอย โครงสร้างของหลังคาเป็นการผสมผสานที่ประณีตระหว่างโครงสร้างรองรับ (gia chieng), คาน (ke chuyen) และคานรองรับ (chong ruong) สร้างกรอบที่แข็งแรงรองรับหลังคาทั้งหมด ส่วนตกแต่งบนสันหลังคาเป็นรูปพระจันทร์ ในขณะที่ส่วนแกะสลักบนคานบน คานล่าง และชายคา แสดงถึงรูปแบบศิลปะของสมัย Lê Trung Hung ซึ่งทั้งโบราณและประณีต
2.2. พระพุทธรูป "หนึ่งเดียวในโลก"
จุดเด่นที่สุดในพื้นที่ Chùa Vồm คือพระพุทธรูปอมิตาภะที่แกะสลักโดยตรงบนหน้าผาหินด้านหลังห้องศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธรูปมีความสูงประมาณ 6 เมตร กว้าง 3.1 เมตร เป็นประติมากรรมนูนต่ำโบราณที่ใหญ่ที่สุดที่เคยค้นพบใน Thanh Hoa และในเวียดนามทั้งหมด ช่างฝีมือโบราณได้เลือกตำแหน่งของภูเขาที่มั่นคงอย่างชาญฉลาดเพื่อแกะสลักพระพุทธรูป และใช้เทคนิคการแกะสลักหินที่ประณีตเพื่อแกะสลักทุกรายละเอียด ตั้งแต่รอยพับของเสื้อผ้า ท่าทางการนั่ง ไปจนถึงแววตาอันเมตตาของพระพุทธเจ้า สิ่งนี้ถือเป็นสมบัติล้ำค่าที่ยืนยันถึงความยิ่งใหญ่และคุณค่าอันเป็นเอกลักษณ์ของ Chùa Vồm ในศิลปะพุทธศาสนาเวียดนาม
ชมรูปปั้น “หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว” ที่วัดโวม (ที่มา: รวบรวม)
2.3. งานประติมากรรมและลวดลายไม้แบบดั้งเดิม
รายละเอียดการตกแต่งภายใน วัดโวม เป็นการผสมผสานที่ละเอียดอ่อนระหว่างศิลปะไม้และหิน ลวดลายดอกบัว ดอกเก๊กฮวย มังกร นกฟีนิกซ์ เมฆที่พลิ้วไหว หรือรูปเต่าคาบดอกบัว ได้รับการแกะสลักอย่างประณีตบนแผ่นไม้ คาน และชายคาของวัด ซึ่งสะท้อนถึงสไตล์ของยุค Le Trung Hung ได้อย่างชัดเจน ทุกเส้นสายแสดงถึงฝีมืออันยอดเยี่ยมและความศรัทธาของช่างฝีมือในอดีต ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างความงามอันเก่าแก่และสง่างามให้กับวัด
นอกเขตอุโบสถหลัก ทางด้านขวา ยังคงมีร่องรอยของเจดีย์ Pho Minh สูงเก้าชั้น ที่นี่เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระภิกษุ Pho Duong Thong Tue ซึ่งสร้างขึ้นในปี Tan Suu (ค.ศ. 1900) ในรัชสมัยของพระเจ้า Thanh Thai ทางด้านหลังด้านซ้ายของวัด ยังมีเจดีย์หินขนาดเล็กสององค์ตั้งพิงหน้าผา ยอดเจดีย์สลักเป็นรูปดอกบัว ลำเจดีย์สลักอักษรจีนโบราณ โครงสร้างเหล่านี้ไม่เพียงแต่เพิ่มคุณค่าทางศิลปะให้กับ วัดโวม เท่านั้น แต่ยังยืนยันถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานและความลึกซึ้งทางวัฒนธรรมพุทธศาสนาของดินแดน Thanh
3. คำแนะนำการเดินทางไปยังวัดโวมที่สะดวกที่สุด
เดินทางจากฮานอย:
จากฮานอย นักท่องเที่ยวสามารถเลือกวิธีการเดินทางได้หลากหลายไปยัง วัดโวม เช่น รถไฟ รถโดยสารประจำทาง หรือยานพาหนะส่วนตัว ระยะทางประมาณ 150 กม. ใช้เวลาเดินทางเฉลี่ย 3 ถึง 3.5 ชั่วโมง หากเดินทางด้วยรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ นักท่องเที่ยวสามารถใช้ทางด่วนฮานอย – นิงห์บิ่ญ จากนั้นเลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1A มุ่งหน้าไปยัง Thanh Hoa และเดินทางต่อไปอีกประมาณ 5 กม. ตามทิศทางของเขต Dong Tien ก็จะถึงแหล่งโบราณคดี หากเดินทางด้วยรถไฟ ขบวนรถ Thong Nhat สายเหนือ-ใต้ทุกขบวนจะจอดที่สถานี Thanh Hoa นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินทางด้วยแท็กซี่หรือรถยนต์รับส่งเพื่อไปยังวัดได้
การเดินทางด้วยรถไฟสายเหนือ-ใต้ทั้งปลอดภัยและประหยัด (ที่มา: รวบรวม)
เริ่มต้นจากนครโฮจิมินห์และจังหวัดทางภาคใต้:
สำหรับนักท่องเที่ยวในนครโฮจิมินห์หรือจังหวัดทางภาคใต้ วิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดคือเครื่องบิน นักท่องเที่ยวสามารถบินไปยังสนามบินโทซวน (Tho Xuan Airport) (ทัญฮวา - Thanh Hoa) จากนั้นเดินทางต่อด้วยแท็กซี่หรือรถยนต์ไปยังใจกลางเมืองทัญฮวา ระยะทางประมาณ 45 กม. เพื่อไปยัง วัดโวม (Vom Pagoda) .
การเดินทางภายในเมืองทัญฮวาไปยังวัดโวม:
เมื่อมาถึงทัญฮวา นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยัง วัดโวม (Vom Pagoda) ด้วยแท็กซี่ รถยนต์บริการเรียกรถ หรือจักรยาน เพื่อเพลิดเพลินกับอากาศบริสุทธิ์ของชานเมือง เส้นทางไปยังวัดเรียบและหาง่าย สะดวกสบายทั้งสำหรับผู้แสวงบุญและนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการสำรวจ ด้วยทิวทัศน์อันเงียบสงบ ทุ่งนาสีเขียวขจี และถนนที่คดเคี้ยวไปตามภูเขา การเดินทางไปยัง วัดโวม (Vom Pagoda) ไม่เพียงแต่เป็นการเดินทางเพื่อสักการะ แต่ยังเป็นประสบการณ์ที่ผ่อนคลาย ช่วยให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความงามอันเรียบง่ายของดินแดนทัญฮวาอย่างเต็มที่
4. แนะนำเส้นทางการสัมผัสประสบการณ์วัดโวม ทัญฮวา
4.1. เส้นทางการสักการะ สัมผัสชีวิตที่เชื่องช้าท่ามกลางธรรมชาติ
นักท่องเที่ยวสามารถเริ่มต้นการเดินทางในตอนเช้าด้วยการเดินเล่นผ่านประตูสามยอด (Tam Quan) อันเก่าแก่ ชมทะเลสาบพระจันทร์ครึ่งดวง (Ban Nguyet) อันเงียบสงบที่สะท้อนเงาของวัด เมื่อเข้าไปในวิหารหลัก โปรดใช้เวลาสักครู่เพื่อสงบจิตใจ จุดธูปสักการะพระพุทธเจ้า และสักการะพระพุทธรูปอมิตาภะที่แกะสลักเข้ากับหน้าผาโดยตรง ผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพสามารถบันทึกช่วงเวลาที่แสงแดดยามเช้าส่องผ่านหลังคากระเบื้องโค้ง หรือทิวทัศน์อันงดงามท่ามกลางภูเขาและป่าไม้ของภูเขา Ban A ทุกมุมมอง ตั้งแต่สะพานหินโค้งไปจนถึงเสาไม้แกะสลักอย่างประณีต ล้วนมีความงามอันเก่าแก่และสงบเงียบที่หาได้ยากจากที่อื่น
4.2. กิจกรรมผสมผสานการเยี่ยมชมระบบนิเวศรอบวัดโวม
หลังจากสักการะและสำรวจพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์แล้ว นักท่องเที่ยวสามารถผสมผสานการเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวทางจิตวิญญาณที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ของทัญฮวา เช่น ศาลเจ้าซงเซิน (Song Son Shrine), ฟูนา (Phu Na), หรือหวนติ๊กอัมเตียน (Huyen Tich Am Tien) ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเป็นจุดหมายปลายทางทางจิตวิญญาณแห่งใหม่ในอนาคต นอกจากนี้ การเดินทางยังสามารถขยายไปยังจัตุรัสชายหาดซามเซิน (Sam Son) ที่นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับอากาศบริสุทธิ์ของทะเล เข้าร่วมกิจกรรมสันทนาการ หรือแวะหมู่บ้านริมแม่น้ำหม่า (Ma River) เพื่อลิ้มลองอาหารท้องถิ่น
การแสดงดนตรีน้ำที่จัตุรัสชายหาดซามเซิน (แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ Thanh Niên)
อย่าลืมแวะชิมอาหารท้องถิ่นรสเลิศจากดินแดนแทงห์ เช่น เนมชัว (หมูหมัก), แช่หลาม (ขนมหวาน), บั๊ญก้ายตือจู (เค้กหนามทุทรุ) หรือซุปใบขมอุ่นๆ ท่ามกลางเสียงระฆังวัดที่ดังก้องและทิวทัศน์อันงดงาม การเดินทางไปวัดโวมจะเป็นการเดินทางที่ผสมผสานจิตวิญญาณ วัฒนธรรม และธรรมชาติได้อย่างลงตัว ช่วยให้นักท่องเที่ยวค้นพบความสงบสุขในชีวิตยุคใหม่อีกครั้ง
เพลิดเพลินกับเนมชัวร์ (Nem Chua) อาหารขึ้นชื่อของแทงฮว้า (Thanh Hóa) (ที่มา: รวบรวม)
การเดินทางสู่ วัดโว่ม (Chua Vom) คือการเดินทางกลับสู่รากเหง้าทางจิตวิญญาณ ที่ซึ่งเสียงระฆังวัดผสมผสานกับเสียงลมภูเขาและแม่น้ำมา (Song Ma) อันอ่อนโยน สร้างบรรยากาศแห่งการทำสมาธิที่สงบสุข ท่ามกลางความงามอันเก่าแก่ของวัด นักท่องเที่ยวจะสัมผัสได้ถึงความกลมกลืนระหว่างสวรรค์ โลก และจิตใจของผู้คน หากมีโอกาสได้มาเยือนแทงฮว้า (Thanh Hóa) โปรดใช้เวลาสักครู่เพื่อสักการะและชื่นชม วัดโว่ม (Chua Vom) เพื่อสัมผัสความงามของสถานที่แห่งนี้อย่างเต็มที่